ผลการประชุมระหว่าง ทรัมป์ และ สีจิ้นผิง ดีกว่าคาด “ พักรบระยะสั้น ระยะยาวยังต้องพิสูจน์”

  • Shares :

 

 

 

 

ผลการประชุมระหว่าง ทรัมป์ และ สีจิ้นผิง ดีกว่าคาด “พักรบระยะสั้น ระยะยาวยังต้องพิสูจน์”

 

 

 

ผลการประชุมระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ และสีจิ้นผิง ในการประชุม G20 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือการเริ่มต้นเจรจาอีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่าในมุมมองของโนมูระนั้นคิดว่ายังขาดความชัดเจนในประเด็นสำคัญหลายๆเรื่อง ทำให้เรายังคงมองว่าสุดท้ายแล้ว สหรัฐอเมริกาจะยังคงขึ้นภาษีการนำเข้าจากจีนในอนาคต เราคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือน กค. และจากนั้นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปจะมากหรือน้อย จะขึ้นอยู่กับผลการเจรจาการค้าในอนาคต เรายังคิดว่าความไม่แน่นอนยังคงอยู่ในระดับสูง รวมทั้งนโยบายต่อหัวเหว่ยจะเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

 

 

 

ประธานาธิบดีทรัมป์ และ สีจิ้นผิง ได้ข้อสรุปที่จะกลับมาเริ่มต้นการเจรจาการค้าอีกครั้งหลังจากที่หยุดไปในเดือน พค.ที่ผ่านมา  โดยนายทรัมป์ ได้กล่าวว่าสหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการจำกัดการทำธุรกรรมสินค้าไฮเทคกับหัวเหว่ย โดยที่ผ่านมาบริษัทของสหรัฐฯจำนวนมากได้ขายสินค้าให้หัวเหว่ยและยังจะจำหน่ายสินค้าต่อไป นายทรัมป์ยังคงกล่าวต่อว่าสหรัฐฯจะหยุดการขึ้นอัตราภาษีการนำเข้าสินค้าจากจีนด้วย

 

 

 

 

 

ในมุมมองของโนมูระ จีนยังคงไม่ได้ทำอะไรที่เป็นปัจจัยเกลี้ยกล่อม เพื่อให้สหรัฐฯเปิดฉากการเจรจา เนื่องจากก่อนหน้านี้  จีนได้รับปากว่าจะซื้อสินค้าของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น ซึ่งยังคงไม่ได้ทำ แต่การที่โดนัลด์ ทรัมป์ กลับออกมาประกาศการเจรจาครั้งใหม่นี้เอง น่าจะเป็นการส่งสัญญาณเพื่อเตรียมตัวการเลือกตั้งครั้งใหม่ของสหรัฐฯในปี 2020 มากกว่า และเราคิดว่ามาตรการที่เข้มงวดกับจีนน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการหาเสียงของทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีมากกว่ามาตรการที่ผ่อนปรน

 

 

ถึงแม้ผลการประชุมจะดูออกมาดีกว่าที่คาดมาก หากแต่เรายังคิดว่า ไม่ได้มีความคืบหน้ามากนักในประเด็นสำคัญหลายๆเรื่องเช่น ประเด็นต่อสู้เรื่องการพัฒนาและถ่ายโอนเทคโนโลยี และหลายๆประเด็นเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติเรื่องการค้าของจีน ยิ่งไปกว่านั้นเราคิดว่ามุมมองของสหรัฐฯกับหัวเหว่ยยังคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด เรายังคงเชื่อว่าในท้ายที่สุดแล้วสหรัฐฯจะขึ้นภาษี 25% บนสินค้านำเข้าจากจีนตามสัดส่วนวงเงินที่เหลือ และความไม่แน่นอนจากเรื่องนี้รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงจะเป็นปัจจัยให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในการประชุมเฟดเดือน กค. และ ธค.

 


บทความน่าสนใจอื่นๆ