ยกเลิก LTF แล้วไง ใครแคร์!!

  • Shares :

 

 

จากที่มีข่าวออกมาว่าจะมีการยกเลิกกองทุน LTF ในปี 2562

ก็ทำให้ผู้มีเงินได้หวั่นใจว่าแล้วต่อไปจะเอาอะไรไปหักลดหย่อนภาษีหล่ะ

 

ซึ่งหลายท่านอาจจะลืมไปแล้วว่า เรายังมีกองทุนอีกหนึ่งประเภทที่เอามาลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน นั่นก็คือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ซึ่งจะว่าไปแล้ว RMF ก็จัดว่ามีข้อได้เปรียบอยู่มากเมื่อเทียบกับ LTF นะคะ

 

 

ข้อดีเด่นๆ ที่มีมากกว่า LTF นั่นก็คือ ความหลากหลายของสินทรัพย์ที่เราสามารถไปลงทุนได้ ไม่ต้องถูกจำกัดอยู่แค่หุ้นไทยเหมือน LTF เพราะการลงทุนใน RMF

 

ข้อที่ 1 สามารถลงทุนได้ในสินทรัพย์หลายประเภท

ไม่ว่าจะเป็น ตราสารหนี้ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ หรือแม่แต่ทองคำก็ยังสามารถทำได้ เรียกว่ามีนโยบายให้เลือกแบบครอบคลุมทุกสินทรัพย์ ซึ่งความหลากหลายของตราสารนั้น ทำให้เราสามารถกระจายความเสี่ยงให้อยู่ในรูปแบบของ Portfolio ได้ และ

 

ข้อที่ 2 สามารถโยกสินทรัพย์ไปมา

เช่นหากเรามองแนวโน้มการลงทุนในหุ้นไม่สดใส หรือราคาหุ้นปรับขึ้นมาสูงแล้ว เราก็สามารถปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นมาลงทุนในตราสารหนี้แทน

 

และข้อที่ 3. การกระจายการลงทุนในหลายๆ สินทรัพย์

ซึ่งข้อนี้ไม่สามารถทำได้ใน LTF ค่ะ

 

 

แต่บางคนก็จะบอกว่า โห!! ไม่เอาอ่ะ ซื้อ RMF นานเกิน กว่าจะเอาออกได้ต้องรอจนอายุ 55 แหนะ ไม่ไหว แก่ตายพอดี!!

 

 

คนส่วนใหญ่จะชินกับการซื้อ LTF เพราะคิดว่าถือแป๊บๆ 5 ปี 7 ปี ก็ขายคืนได้เงินไปใช้ หรือไม่ก็ขายแล้ววนมาซื้อใหม่ ไม่ต้องใส่เงินเพิ่ม สรุปไปๆมาๆ เงินที่ลงทุนใน LTF ก็ ถูกถอนไปใช้จนหมด หรือไม่ก็มีเงินก้อนเดียวนั่นแหละซื้อวนกันไป สรุปตอนบั้นปลายชีวิตก็แก่ ไม่มีตังค์ และยังไม่ตาย เศร้าไปอีกค่ะ ????

 

ที่จริงแล้วการที่ RMF ต้องถือจนถึง 55 อันนี้นับเป็นข้อดีมากๆเพราะคือเป็นการลงทุนระยะยาวอย่างแท้ทรู เราสามารถใช้กองทุน RMF ในการวางแผนเกษียณอายุได้ และเป็นการฝึกวินัยการออม แถมยังได้ผลประโยชน์ทางภาษีอีกค่ะ ทีนี้ต่อให้ยกเลิก LTF ไป ก็หาแคร์ไม่นะคะ หันไปซื้อ RMF ก็เป็นตัวช่วยประหยัดภาษีได้เหมือนกันค่ะ 

 

ส่วนกอง RMF กองไหนผลการดำเนินงานย้อนหลังดี ก็สามารถเข้าไปดูได้ที NOMURA iFUND ค่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่ยกเลิก LTF ก็ควรซื้อทั้ง LTF และ RMF นะคะ เพราะภาษีเป็นสิ่งที่ประหยัดได้ค่ะ !


บทความน่าสนใจอื่นๆ