บทความ ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2563
เราทุกคนคงทราบกันดีว่าปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามาผสมผสานอยู่ในชีวิตประจำวันของเราแทบตลอดเวลาโดยที่ไม่รู้ตัว เช่นเดียวกันกับ "การเรียนการสอน" ที่จะถูกเทคโนโลยีเปลี่ยนให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป !!
วันนี้ผมเลยอยากพูดถึง การศึกษารูปแบบใหม่ ในยุคดิจิตอล ให้ทุกคนฟังกันนนนน
ก่อนอื่นขอให้ทุกคนหลับตา และลองนึกภาพการศึกษาในหัวของเรา เชื่อว่าหลายๆคนต้องเห็นภาพเป็น ห้องเรียน นักเรียน 30-40 คน เดินเปลี่ยนคาบไปเรื่อยๆทั้งวัน เวลาหมดไปกับการทำการบ้าน และอ่านหนังสือสอบหมด ไม่ได้ค้นคว้าเรื่องที่เราสนใจอะไรกันสักเท่าไหร่ (จินตนาการหรือบ่น ? ชักไม่แน่ใจครับ)
นี่จึงเป็นปัญหาสุด classic ของการศึกษาแบบเดิมๆ คือ
-
ค่าใช้จ่ายสูงแต่ไม่มีคุณภาพ มีข้อจำกัดเรื่องสถานที่ รับผู้เรียนได้จำกัด ค่าเรียนต่อหัวแพงลิบ เน้นเรียนเพื่อสอบ อาจต้องไปเรียนพิเศษเสริม เพื่อทำคะแนนให้ดี
-
ไม่ยืดหยุ่น มีการกำหนดรูปแบบการเรียน เวลา และสถานที่ตายตัว ทำให้ใช้ทรัพยากรได้ไม่เต็มที่
-
ไม่น่าสนใจ ขาดการมีส่วนร่วม เรียนแบบท่องจำ ไม่มีการสาธิต หรือสื่อที่น่าสนใจ
-
แบบฝึกหัดแบบดั้งเดิม คำแนะนำไม่สามารถแนะนำรายบุคคลได้มากนัก ผู้สอนกับผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กันจำกัด ทำให้เรียนรู้ และพัฒนาไม่ตรงจุด
ซึ่งหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป คงไม่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคตได้แน่นอน
แต่ช้าก่อน . . พระเอกมาแล้วววว !!
ต้องขอบคุณเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยลดข้อจำกัดเหล่านั้นลง ทำให้ตอนนี้สื่อการเรียนการสอน และระบบการศึกษาพัฒนาไปสู่ธีม “EDUTAINMENT” เรียบร้อยแล้วครับ
คำว่า “EDUTAINMENT” เป็นธีมที่บอกว่า การศึกษาเดิมๆกำลังโดน disrupt เพราะการศึกษารูปแบบใหม่เนี่ยจะทำให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมมากขึ้น มีความสนุก น่าสนใจ ไม่น่าเบื่อ และลดข้อจำกัดเรื่องสถานที่ และเวลา ทำให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย เฉกเช่น quote นี้ที่ impact สุดๆ
ธีมการศึกษายุคใหม่ (EDUTAINMENT) ประกอบด้วยธุรกิจ 3 กลุ่มใหญ่ๆ ที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนให้ดีขึ้น ได้แก่
-
INNOVATIVE SERVICES : ได้แก่ การพัฒนา แพลตฟอร์มที่สามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา เลือกได้ตามความสนใจ ในราคาประหยัด ตัวอย่างเช่น
-
-
2U : แพลตฟอร์มที่ร่วมมือกับมหาลัยดัง 60 แห่งทั่วโลกอย่าง Oxford, Havard, Cambridge และ Yale เป็นต้น เพื่อเสนอหลักสูตรปริญญาออนไลน์ให้แก่ผู้ใช้งาน
-
DIGITAL CONTENTS : ได้แก่ การพัฒนาการสอนให้ Interactive มากขึ้น เพื่อทำให้ผู้เรียนเข้าใจบทเรียนได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น
-
-
Chegg : แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ออกแบบให้เหมาะกับรายบุคคล ควบคุมเวลาได้ สามารถถาม-ตอบ กับผู้เชี่ยวชาญได้ตลอดเวลา ในขณะที่ผู้สอนมีระบบติดตามเพื่อดูว่าผู้เรียนควรเสริมในจุดไหน ทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพสูงสุด
-
SYSTEM & TOOLS : ได้แก่ เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอน เพื่อช่วยให้สามารถเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติ และแก้ปัญหาได้เสมือนจริงทันที ตัวอย่างเช่น
-
-
CAE : ผู้นำการจัดอบรมการบินพลเรือน การทหาร และการแพทย์ มีระบบ Flight Simulator และ Medical Simulator
คำถามต่อมาที่มักเจอคือ เฮ้ยยย แต่เด็กเกิดน้อยลงเรื่อยๆ ธุรกิจพวกนี้จะยังโตได้หรอ ?
ก็ต้องบอกว่าได้แน่นอนครับ เพราะเมื่อดูข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ 1980 หรือ 40 ปีที่แล้ว พบว่าค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษามันโตขึ้น 1200% อ่ะ แล้วอีกอย่างคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็พร้อมยอมจ่ายสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกเท่าที่จะสามารถทำได้ จริงไหมครับ
source : UOBAM, Credit Suisse, Bureau of Labor Statistics, Bloomberg
นอกจากนี้จำนวนนักเรียนในกลุ่มประเทศ Emerging Market ยังคงเพิ่มขึ้น และมี demand อย่างต่อเนื่อง เชื่อเถอะว่ายังไงทุกคนก็คงต้องการคุณภาพการศึกษาที่ดีครับ
source : UOBAM, Credit Suisse, Citi Research
“ ที่สำคัญเลยนะ ตลาดการศึกษายังสามารถขยายตัวเป็น 2 เท่าได้ในอีก 10 ปี และปัจจุบัน ธุรกิจการศึกษาเพิ่งเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ Digital ไปเพียงแค่ 2% เท่านั้นเอง”
นั่นหมายความว่า ยังมีโอกาสทั้งการขยายตัวของตลาดการศึกษา และภาพการเปลี่ยนถ่ายไปสู่ Digital อย่างเต็มรูปแบบรออยู่ !!
source : UOBAM, Credit Suisse, Markets Media
สุดท้ายนี้ผมก็เชื่อว่าประชากรที่จะกลายมาเป็นกำลังสำคัญของโลก ถ้าจะมีคุณภาพก็ต้องมาจาก การศึกษาที่ดี ดังนั้นวันนี้เรามาเริ่มต้นลงทุนกับการศึกษายุคใหม่ ให้พอร์ตของเราเติบโตไปพร้อมกับอนาคตของโลกกันจะดีไหมครับ
“ เพราะการศึกษาคือการลงทุน เราจึงต้องลงทุนในการศึกษา !! ”
ถ้าทุกท่านอยากรู้ว่าเป็นกองทุนอะไร ไปฟังรายการ Krungsri Capital FUND TALK โดย click ที่ banner ด้านล่างนี้กันได้เล้ยย !!